loading...
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 2559 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามี 2 พี่น้องยอดกตัญญู ปรนนิบัติดูแลพ่อพิการแขนขาขาด ทั้งตอนเช้าก่อนไปโรงเรียน และกลับมาป้อนข้าวเที่ยงของทุกวัน ซึ่งครอบครัวนี้พักอาศัยอยู่ในที่ดินของบ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 17 ต.ท่าผา อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงรุดตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบวัยรุ่นหญิงและเด็กชายคู่หนึ่ง แต่งกายด้วยชุดนักเรียน กำลังคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ และนวดให้กับชายพิการแขนขวาและขาซ้ายขาด อยู่บริเวณเพิงพักที่ดัดแปลงจากซากรถสิบล้อเก่าและมุงด้วยสังกะสี ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ภานุภรณ์ กิ่งพรมภู อายุ 17 ปี หรือ น้องเอ๊ะ นักเรียนชั้น ปวช.2 สาขาการบัญชี วิทยาลัยเทคนิคราชบุรี 2 และ ด.ช.ธนาพร ฮาดนารี อายุ 10 ปี หรือ น้องเค นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดโกสินารายณ์ ส่วนชายผู้พิการ คือ นายยุทธนา ฮาดนารี อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นคุณพ่อของเด็กทั้ง 2 คน
น้องเอ๊ะ เล่าว่า เดิมพ่อของตนเป็นชาวนครพนม เมื่อ 12 ปีก่อนได้เดินทางมาทำงานเป็นคนงานขับรถสิบล้อขนส่งสินค้า ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2555 ในขณะที่พ่อกำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนนสายบ้านดอนขมิ้น ต.ลูกแก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อเดินทางกลับยังที่พักหลังไปทำธุระ ได้ถูกรถยนต์เก๋งชนจากด้านหลัง จนเป็นเหตุให้ต้องถูกตัดแขนและขา ภายหลังออกจากโรงพยาบาล ได้มาพักอาศัยอยู่กับนายจ้าง ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือทั้งเรื่องของที่อยู่อาศัย ด้วยการดัดแปลงท้ายกระบะรถสิบล้อมาทำเป็นห้องพัก และให้ทำงานเป็นแม่บ้าน เพื่อจะได้มีรายได้ช่วยเหลือครอบครัวอีกทางหนึ่ง นอกจากนั้นยังคอยช่วยเหลือในด้านการศึกษาอีกด้วย
loading...
ในทุกวัน ตนต้องตื่นนอนตั้งแต่เวลาตี 5 เพื่อไปทำงานที่บ้านของนายจ้าง จากนั้นจะกลับมาแปรงฟัน เช็ดตัว เตรียมอาหารให้พ่อกับน้องชาย ก่อนจะไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วเราทั้ง 3 คนก็จะกินข้าวด้วยกัน โดยตนจะเป็นคนป้อนข้าวให้พ่อ ส่วนวันไหนที่ตนและน้องต้องไปเรียน ในช่วงพักเที่ยงก็จะขออนุญาตอาจารย์ เพื่อกลับบ้านมาป้อนข้าวให้กับพ่อ แล้วจึงกลับไปเรียนต่อ ในช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียน ตนก็จะเตรียมหุงหาอาหาร ทำกับข้าว ก่อนจะไปทำงานให้นายจ้าง เสร็จจากงานก็จะกินข้าวพร้อมหน้ากัน แล้วจึงทำการบ้าน ส่วนน้องชายก็จะคอยบีบนวด และอยู่เป็นเพื่อนคุยเล่นกับพ่อด้วยภาระหน้าที่ที่มีต่อบุพการี น้องเอ๊ะบอกด้วยน้ำตานองหน้าว่า “บางครั้งก็รู้สึกน้อยใจต่อโชคชะตา แต่ก็ไม่ท้อ ต้องอยู่ และสู้เพื่อพ่อกับน้องชาย” เมื่อถามถึงอนาคต น้องเอ๊ะบอกว่าใฝ่ฝันอยากเป็นทหาร อยากเป็นรั้วของชาติ เพื่อปกป้องคุ้มครองประชาชนให้มีความสุข
สำหรับสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในตอนนี้ คือ รถเข็นวิลแชร์ เนื่องจากต้องการให้พ่อได้ออกไปท่องเที่ยว คลายความเครียดยังที่ต่างๆ ได้ เพราะเมื่อเราสองพี่น้องเห็นรอยยิ้มของพ่อ เราก็มีความสุขและพร้อมที่จะสู้ไปด้วยกันต่อไป
loading...
ที่มา: http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1469537950
0 comments:
Post a Comment